ดาราศาสตร์และอวกาศ

ฐานฟากฟ้า ณ หว้ากอ

ฐานมนุษย์กับดวงดาว

ฐานพระมหากษัตริย์ ราชวงศ์ไทยกับดาราศาสตร์

ฐานความเป็นไปในจักรวาล

ฐานเทคโนโลยีอวกาศและเอกภพ

นาฬิกาแดด[Sundials]

    นาฬิกาแดดแนวราบ[Horizontal sundial]
    มีสันกำเนิดเงารูปสามเหลี่ยม ทำมุมเงย 11 องศา 42 ลิปดา (เท่ากับละติจูดของบ้านหว้ากอ) ชี้ไปยังตำแหน่งขั้วฟ้าเหนือเงา
ที่เกิดขึ้นทาบไปยังพื้นซึ่งทำหน้าที่เป็นหน้าปัทม์นาฬิกาแสดงเส้นเวลาเส้นละหนึ่งชั่วโมง

   นาฬิกาแดดแนวตั้ง[Vertical sundial]
   มีเข็มกำเนิดเงาเอียงทำมุม 11 องศา 42 ลิปดา ขนานกับแกนโลกเงาที่เกิดขึ้นทางไปบนหน้าปัทม์ ซึ่งมีเส้นชั่วโมงห่างกันทาง
เชิงมุม เส้นละ 15 องศา นาฬิกาแดดแนวตั้งจำเป็นต้องมีสองด้านคือด้านเหนือและด้านใต้ เนื่องจากแกนของโลกเอียงทำมุม
23.5 องศากับระนาบวงโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ทำให้ดาวอาทิตย์อยู่ด้านเหนือ ระหว่างวันที่ 21 เมษายน – 22 สิงหาคม
และอยู่ทางใต้ ระหว่างวันที่ 23 สิงหาคม – 20 เมษายน (เฉพาะที่ตำแหน่งของ บ้านหว้ากอ)

    นาฬิกาแดดแบบอีเควทอเรียล[Equatorial Sundial]
     เป็นนาฬิกาแดดซึ่งเอียงทำมุมเงย 11 องศา 42 ลิปดา เพื่อให้เส้นกำเนิดเงาชี้ไปยังตำแหน่งขั้วฟ้าเหนือและขนาดกับแกนโลก เงาที่เกิดขึ้นทาบไปยังแขนหน้าปัด ซึ่งมีเส้นชั่วโมงห่างกันทางเชิงมุม เส้นละ 15 องศา

วิธีการอ่านนาฬิกาแดด
    1. อ่านเวลาจากเงาบนนาฬิกาแดด
    2. หาค่าสมการเวลาจากเส้นกราฟของวันนั้น
    3. นำค่าเวลาที่อ่านได้จากนาฬิกาแดด +  ค่าสมการเวลาของวันนั้น......... 1 + 2
    4. ผลลัพธ์ที่ได้คือ เวลามาตรฐานประเทศไทย

ตัวอย่าง
    1. วันที่ 21 ส.ค. อ่านเวลาจากเงาบนนาฬิกาแดดได้ 13:30 นาฬิกา
    2. อ่านสมการเวลาของวันที่ 21 ส.ค.  = 3 นาที
    3. เวลาที่อ่านได้จากนาฬิกาแดด + ค่าสมการเวลาวันนั้น = 13:30 + (+3 นาที)
    4. เวลามาตรฐานในประเทศไทย = 13:30 + 00:03 = 13:33 นาฬิกา