สอบถามและจองค่ายหว้ากอ
ฐานมนุษย์กับดวงดาว
จำนวนผู้เข้าชม : 1988 คน

 

นิทรรศการมนุษย์กับดวงดาว รวบรวมเรื่องราวของการศึกษาและการใช้ประโยชน์จากดวงดาวของมนุษย์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แสดงให้เห็นคติ ความเชื่อของคนสมัยโบราณ เริ่มตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ยุคอารยธรรม จนถึงปัจจุบัน เปิดให้บริการ ศึกษาฐานการเรียนรู้ และบริการศึกษาตามอัธยาศัย โดยสามารถ เข้าชมนิทรรศการได้ตั้งแต่ เวลา 09.00 - 16.00 น. ซึ่งเนื้อหา ภายในนิทรรศการ แบ่งออกเป็น 8 โซน ได้แก่
โซนที่ 1 ดาราศาสตร์โบราณ 
กล่าวถึงเรื่องราวการศึกษาดวงดาวของคนโบราณที่มีหลักฐานพอเชื่อถือได้ปรากฏให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน ได้แก่
ปิรามิดแห่งเมืองกีซ่า ประเทศอียิปต์: เป็นสิ่งก่อสร้างรูปกรวยเหลี่ยมสำหรับเป็นที่เก็บศพกษัตริย์โบราณ ถูกสร้างขึ้นเพื่อบันทึก ประวัติศาสตร์ของมนุษย์ที่เป็นวัฏจักร ตั้งแต่ยุคราตะจนถึงปี ค.ศ.1998 ในการจัดสร้างได้ใช้ดวงดาวในการวางรากฐาน โดยมหาปิรามิดตั้งอยู่บนเส้นกรีนิช แบ่งระหว่างขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้พอดี นอกจากนี้ฐานทั้งสี่ด้านที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส จะหันไปทางทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตก

อนุสาวรีย์เสาหินเทิน หรือ Stonehenge ในประเทศอังกฤษ : เป็นกองหินประหลาดซึ่งเรียงรายเป็นรูปวงกลมซ้อนกัน 3 วง บางก้อนล้มนอน บางก้อนตั้งตรง บางก้อนวางซ้อนทับอยู่บนยอด ก้อนหินที่ตั้งอยู่สองก้อน สันนิษฐานว่า คือหอดูดาวของคนโบราณ สำหรับใช้ดูการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลจากท้องฟ้า และดูการขึ้น และตกของดวงอาทิตย์ของแต่ละวันในรอบ 1 ปี และคาดว่า ตั้งอยู่เช่นนี้มาตั้งแต่ก่อนคริสตกาล 1,700 ปี

ปราสาทหินพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์ :สร้างขึ้นจากหินทรายสีชมพู ตั้งอยู่เหนือ ปล่องภูเขาไฟที่ดับแล้ว เป็นเทวสถานของศาสนาฮินดุ ลัทธิไศวนิกาย ในสมัย พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งอาณาจักรขอม ซึ่งในช่วงต้นเดือนเมษายน ในช่วงเช้า ของวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 5 จะมีปรากฏการณ์ ลำแสงอาทิตย์ทำมุมทอดยาวลอดช่อง ประตู 15 บาน ของตัวปราสาท ซึ่งสันนิษฐานว่าแนวประตูสร้างตาม ความเชื่อเรื่องตำแหน่งดาวขึ้นจากขอบฟ้า เทพอาทิตย์จะประทาน แสงแห่งพลังอำนาจแก่รูปเคารพ ตามคติโบราณของศาสนาฮินดู

โซนที่ 2 นิยายดาว บอกเล่าเรื่องราวประกอบกลุ่มดาวบน ท้องฟ้า เนื่องจากบนท้องฟ้ามีดวงดาว อยู่เป็นจำนวนมาก คนในสมัยโบราณ จึงแบ่งดวงดาวออกเป็นกลุ่ม ๆ  และวาดภาพ จินตนาการว่าเป็นรูป 
คน สัตว์ สิ่งของ ไปต่างๆ นานา ตาม ความเชื่อ และวิถีชีวิต ของ วัฒนธรรมของพวกเขาและเล่า สืบทอดต่อกันมาสู่ปัจจุบัน เรื่องราว บอกเล่าเกี่ยวกับกลุ่มดาว บนท้องฟ้ามีความแตกต่างกันไป ในแต่ละ อารยะธรรม เป็นต้นว่าชาวยุโรปซึ่งอยู่บนภูเขา มีอาชีพ ล่าสัตว์ 
มองเห็น กลุ่มดาวเป็น "นายพราน" แต่คนไทย ส่วนใหญ่มีอาชีพ ทางการเกษตร มองเห็นกลุ่มดาวนี้ ี้เป็นรูป "เต่า" และ "คันไถ" เป็นต้น


โซนที่ 3 ดวงดาวกับชีวิต กล่าวถึงการใช้ประโยชน์จากกลุ่มดาว ของ คนโบราณ ทั้งเป็นเข็มทิศบอกหนทาง เป็นนาฬิกาบอกเวลา ตลอดจนเป็น ปฏิทินบอกฤดูกาลที่ซื่อสัตย์และเที่ยงตรง

 
เอื้อเฟื้อข้อมูลโดย ::น.ส.พุธลดา ิตตวิสุทธิกุล /น.ส.นบกมล เริญยิ่ง