700-1300
อิสลามแผ่อำนาจปกคลุมไปทั่วยุโรปตอนใต้ มีการแปลตำราวิทยาศาสตร์ของกรีกเป็นภาษาอาหรับและมีการศึกษาและปรับปรุง
ทฤษฎีของพโตเลมี
476
การแตกสลายของนครโรมในปี ค.ส.476
400
เริ่มยุคมืดของกรีกการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ในแถบยุโรปหยุดชะงักเพราะถือเป็นสิ่งที่ต่อต้านศาสนา
100-170
คลาวเดียส พโตเลมี
พโตเลมีประยุกต์แบบจำลองเอกภพของเพลาโตและอริสโตเติล และเสนอระบบการโคจรของดาวเคราะห์แบบอีพิไซเคิล
เพื่ออธิบายการเคลื่อนที่วนถอยหลังของดาวเคราะห์ที่ปรากฏบนท้องฟ้า
1546-1601
ไทโค บราเฮ
บราเฮสร้างหอดูดาวที่ใช้ทำการสังเกตการทางดาราศาสตร์ขึ้นมาเป็นครั้งแรกใช้ควอทแดรนท์ในการสังเกตดาวเคราะห์
์และดาวฤกษ์ต่าง ๆ ได้อย่างละเอียดเขาสังเกตพบซุปเปอร์โนวาในปี ค.ศ. 1572 และดาวหางในปี ค.ศ. 1577ี
1473-1543
นิโคลัส โคเปอร์นิคัส
โคเปอร์นิคัสตั้งทฤษฏีใหม่ว่าดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของเอกภพ โดยมีโลกและดาวเคราะห็ต่าง ๆ โคจรเป็นบริวาร
อยู่รอบดวงอาทิตย์
1642-1727
โอแซก นิวตัน
นิวตันตั้งกฎการเคลื่อนที่และกฎของแรงโน้มถ่วง เขายังได้ประดิษฐ์กล้องโทรทรรศน์แบบสะท้อนแสงขึ้นเป็นครั้งแรก
1571-1630
โยฮันเนส เคปเลอร์
เคปเลอร์ตั้งกฎการเคลื่อนที่ของดาวเคราะห์ในระบบสุริยะขึ้นมา
1546-1642
กาลิเลโอ กาลิเลอิ
กาลิเลโอใช้กล้องส่องทางไกลสังเกตท้องฟ้าเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1609
1787-1826
โยเซฟ ฟอน ฟราวน์โฮเฟอร์
ฟราวน์โฮเฟอร์ศึกษาเส้นสเปกตรัมของดวงอาทิตย์และสังเกตพบเส้นมืดบนแถบสเปกตรัมของดวงอาทิตย์ในปี ค.ศ. 1814
ซึ่งบ่งบอกถึงองค์ประกอบทางเคมีของดวงอาทิตย์ เส้นมืดดังกล่าวได้ชื่อว่า เส้นฟราวน์โฮเฟอร์
1781-1784
วิลเลียม เฮอร์เชล
เฮอร์เชล สร้างกล้องโทรทรรศน์แบบสะท้อนแสงขนาดใหญ่ขึ้นมาเป็นครั้งแรกทำให้เขาได้ค้นพบดาวยูเรนัสดวงจันทร์ ์บริวารโอเบรอนและไททาเนียในปี ค.ศ.1781นอกจากนี้เขายังได้ใช้กล้องดังกล่าวทำการศึกษาทั่วท้องฟ้าในซีกเหนือรวบรวมเป็น
แคตาลอกของเนบิวลากระจุกดาวและกาแล็กซี
หน้าที่ 1 | 2 | 3
|