.. ........................................................................................................................... Wednesday, November 28, 2012 11:43 AM























 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

   การอนุรักษ์นก       

ที่จริงนกในประเทศไทย ในแต่ละภาคจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับสภาพ ภูมิประเทศ แหล่งอาหาร ดินฟ้าอากาศถ้าดูนกกันอย่างจริงจังแล้วก็สามารถเดินทางไปดูได้ทุกแห่งทั่วประเทศ ตามแต่ฤดูกาลที่เอื้ออำนวยที่แตกต่างกันไป อย่างในฤดูหนาวก็จะมีนกอพยพที่มาจากต่างประเทศ เช่น ดอย อินทนนท์ก็ดีหรือเขาสามร้อยยอดก็ดี ล้วนเป็นแหล่งนกอพยพที่น่าสนใจทั้งสิ้น

ในปัจจุบันเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่คนไทยโดยเฉพาะคนรุ่นหนุ่มสาวหันมาสนใจเรื่องธรรม- ชาติกันมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่คงเริ่มต้นมาจากการดูนก จากชมรมดูนกที่ตั้งขึ้นโดยกลุ่มเอกชนที่เริ่มบุกเบิกใน เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่น่าชมเชยอย่างยิ่งที่เขามองไกลว่าการให้ความรู้กับคนดูนกทำให้คนรักและสนใจนก ซึ่งเป็น วิธีสำคัญของการอนุรักษ์นกและธรรมชาติ ในเมืองไทยเวลานี้ ไม่ว่าจะไปที่เขาใหญ่ บางพระ หรือที่ แก่งกระจาน จะมีคนหนุ่มสาวไปตั้งแคมป์ ออกส่องกล้องดูนกกันเป็นจำนวนมากทุกสุดสัปดาห์ การดูนกจำเป็นจะต้องได้ครูที่ดี ไม่เช่นนั้นอาจเบื่อได้ และกล้องดูนกต้องมี คุณภาพดีพอสมควร มิฉะนั้นดูไปก็อาจทำให้ปวดตาได้ นอกจากประชาชนทั่วไปที่สนใจการดูนกแล้ว ได้มี โรงเรียนระดับประถมและมัธยมศึกษาเป็นจำนวนมาก พยายามจัดให้มีกิจกรรมการดูนกมากขึ้น ซึ่งเป็น กิจกรรมนอกชั้นเรียนที่สำคัญ นำไปสู่การปลูกฝังให้มีการอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างกว้างขวางได้ อย่างไรก็ตามกิจกรรมการพาเด็กไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติ หรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ยังนับว่าทำกันน้อยมากในประเทศไทยซึ่งต่างกับประเทศที่เจริญแล้ว เช่นอเมริกาหรือยุโรปก็ดี พอถึงเวลา ปิดเทอมเขาก็จะพาเด็กๆไปท่องเที่ยวพักผ่อนสัมผัสธรรมชาติ อาจไปอยู่ตามเมืองในชนบทที่มีแหล่ง ท่องเที่ยวทางธรรมชาติหรือโบราณสถาน นี่คือวิธีการปลูกฝังการอนุรักษ์ให้กับเด็ก จริงอยู่ถ้าจะกล่าวว่าเขา รวยแล้วเขาเที่ยวได้ง่าย คนไทยไปเที่ยวได้ยากเพราะเงินเดือนน้อย แต่สิ่งเหล่านี้ค่อยเป็นค่อยไปก็ได้ พ่อแม่ ที่เป็นผู้ปกครองควรสละเวลาในวันหยุดพาเด็กๆไปสัมผัสกับธรรมชาติบ้าง ซึ่งไม่จำเป็นว่าจะต้องไปไกล ถึงดอยอินทนนท์ หรือห้วยขาแข้ง แต่อาจเลือกไปดูนกตามสถานที่ใกล้ๆ เช่น บางปูเขาดิน หรือสวนลุมพินี ก็ได้

ในเรื่องของการดูนกและอนุรักษ์นก คงต้องเริ่มตั้งแต่เด็กระดับประถม มัธยม เพราะเมืองไทยมีนกค่อนข้างมาก ไม่ว่าไปที่ไหนก็จะเจอแต่นกทั้งนั้น การดูนกจะเพลิดเพลินยิ่งขึ้นถ้าจะ ศึกษาข้อมูลสักนิดว่านกมีการอพยพย้ายถิ่นหากินด้วย แม้กระทั่งในเมืองเราก็ยังพบเห็นนกอพยพในบาง ฤดูกาล เช่นฤดูหนาวจะมีนกอพยพลงมาจากประเทศจีนและไซบีเรียเข้าสู่ไทยและเลยไปจนถึงภาคใต้ บางชนิดอพยพลงไปจนถึงทวีปออสเตรเลียก็มี เพราะฉะนั้นถ้าจะทำให้คนสนใจเรื่องนกจริงๆโดยเฉพาะ นักเรียนนักศึกษา เราจำเป็นต้องให้ข้อมูลเหล่านี้กับเขาด้วย และนกเป็นสิ่งที่จะทำให้คนมีใจรักธรรมชาติได้ง่าย ด้วยความสวยงามจากสีสันของขนนก ตัวมันเองจึงเป็นจุดดึงดูดที่ดีแต่ถ้าหากเรามองนกด้วยตาเปล่าแล้ว อาจจะไม่ให้ความสนใจในตัวมันมากเท่ากับการส่องดูนกด้วยกล้อง พร้อมทั้งศึกษาข้อมูลทางนิเวศของมันจาก ตำราดูนกควบคู่กันไปด้วย ถ้าเป็นคนช่างสังเกตก็จะเห็นว่า เมื่อถึงฤดูนกผสมพันธุ์มีครอบครัวน้น พอลูกนก ออกจากไข่แล้วมันจะมีพ่อแม่คอยเลี้ยงดูอยู่สักระยะหนึ่งอย่างเช่น นกกางเขนบ้าน บ้านเกือบทุกหลังแถบชาน เมืองมักจะมีนกชนิดนี้มาอาศัยอยู่ ซึ่งเราจะมองเห็นถ้าเราเป็นคนช่างสังเกต แต่มีปัญหาอยู่นิดเดียวว่าการดูนก ให้เกิดการปลูกฝังจิตสำนึกในการรักนก อนุรักษ์นก ควรจะต้องมีเครื่องมืออุปกรณ์ช่วยดู นั่นคือกล้องส่อง ทางไกลที่มีกำลังขยาย 8-10 เท่า เราจึงจะมองเห็นได้ว่านกมีความสวยงามแค่ไหนถ้าดูด้วยตาเปล่าแล้วนกตัว เล็กดูแล้วอาจไม่มีความน่าสนใจเท่าไรนัก

การอนุรักษ์นกกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ทั้งสองสิ่งนี้จำเป็นต้องกระทำควบคู่กันไป เพราะนกเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งแวดล้อมถ้าสภาพแวดล้อมไม่ดี นกก็อยู่ไม่ได้ นั่นก็หมายความว่านนกต้องการอยู่ ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ถูกทำลายง่าย ไม่มีใครไปยิงหรือว่ามีแหล่งอาหารให้หากินเพียงพอ นกบางชนิดหากินใน อากาศ บางชนิดหากินบนพื้นดิน ทำรังบนพื้นดิน นกไม่จำเป็นต้องทำรังบนต้นไม้เสมอไป ยังมีนกอีกหลายร้อย ประเภทที่ทำรังบนทุ่งหญ้า ซึ่งทุ่งหญ้าต่างๆเหล่านี้อาจมีกิจกรรมของมนุษย์ที่มีผลกระทบ เช่น การเดินทาง สัญจรผ่านไปมา การเลี้ยงสัตว์ ทำให้นกที่ทำรังบนทุ่งหญ้าต้องเสี่ยงต่อกรถูกทำลายได้ง่ายเหมือนกัน ประเทศที่เจริญแล้วมีการกำหนดพื้นที่อนุรักษ์ พื้นที่ห้ามล่าหรือพื้นที่สงวน เพื่อ กิจกรรมดูนกโดยเฉพาะ เขาจะไม่ให้มีกิจกรรมอื่นที่ไปทำลายสภาพแว้ดล้อมในพื้นที่เหล่านั้น ซึ่งเป็นเรื่อง น่าเสียดายที่บ้านเรายังดำเนินการไม่ได้

เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบางพระมีพื้นที่ติดกับขอบอ่างเก็บน้ำ เป็นพื้นที่โล่งบริเวณกว้าง ขวาง พื้นที่เหล่านี้จริงๆ แล้วน่าที่จะห้ามไม่ให้นำวัวควายเข้าไปเลี้ยง หรือให้คนขับรถเข้าไปวางอวนลงแห เพราะจะต้องผ่านพื้นที่ที่นกทำรัง และเลี้ยงลูกเมื่อตอนยังเล็ก แต่กับมีรถวิ่งกันขวักไข่วไปหมดทางที่ดี ควรกันพื้นที่เพื่อให้ชาวบ้านจับปลาได้ แต่ก็ควรกำหนดขอบเขตให้ชัดเจนว่ารถควรวิ่งตรงใหนได้ตรง ไหนไม่ได้ วิธีการเหล่านี้จะช่วยในการคุ้มครองแหล่งที่อยู่อาศัยของนกที่ทำรังบนทุ่งหญ้า บริเวณอ่างเก็บนำบางพระนั้นมีนกไม่ตำกว่า 200 ชนิดซึ่งมีเพียงนักดูนกจริงๆ เท่านั้นถึงจะรู้ว่าที่นี้เป็นสวรรค์ของการดูนกอีกแห่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูหนาวจะมีนกอพยพมาหากิน ตามชายน้ำริมอ่างเป็นจำนวนมาก การกำหนดเขตเพื่อควบคุมกิจกรรมของมนุษย์จึงเป็นแนวทางที่นำไป สู่การอนุรักษ์นกที่นี้ได้

เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยจังหวัดพัทลุง และบึงบอระเพ็ดจังหวัดนครสวรรค์เป็น แหล่งดูนกที่หากินในน้ำ เป็นอุทยานนกกรือ "Bird Park" ที่เปิดโล่งตามธรรมชาติ ทั้ง 2 แห่งมีพื้นที่สำหรับ การถ่ายภาพ และการดูนกที่ดีที่สุดเช่นกัน อีกทั้งยังเหมาะสำหรับการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับนิเวศวิทยาของนกที่นี่ถือ ได้ว่าเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ (Wetlands) ที่สำคัญมากของประเทศไทย แต่ที่น่าเสียดายก็คือว่ายังมีปัญหาในการ จัดการอยู่ เช่นที่พรุควนเคร็งปัจจุบันยังมีการบุกรุกพื้นที่ป่าพรุ มีการทำถนนตัดเข้าไปซึ่งถือเป็นการทำลาย ถิ่นหากิน ถิ่นที่อยู่อาศัย ของนก นกทะเลที่น้อยแต่เดิมเคยมีค้อนข้างมาก เมื่อ 20 ปีที่แล้วมีนกจำนวนเป็นหมื่นๆ ตัว แต่ปัจจุบันนก เป็ดน้ำต่างๆ ลดปริมาณลงมากเมื่อพื้นที่ถิ่นที่อยู่อาศัยลดน้อยลงอาหารน้อยลง เพราะการถูกบุกรุกนกก็ จะย้ายถิ่นฐานมีผลโดยตรงต่อการอนุรักษ์นักท่องเที่ยว อุทยานนกในต่างประเทศบางแห่งเขาทำเป็นกรงขนาดใหญ่ที่นกสามารถบินได้ เรียกว่า Aviary ไม่ใช่กรงเล็กๆ อย่างในสวนสัตว์บ้านเรายกเว้นที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จังหวัดชลบุรี ที่มีกรงขนาดใหญ่บางคนอาจมองว่าเป็นการนำสัตว์มากักขัง

แต่อย่างไรก็ตาม การที่มีกรงนกขนาดใหญ่เช่นนี้ก็มีประโยชน์ในแง่ที่จะ ดึงดูดคนที่ไม่เคยสนใจนก และเพื่อให้ความรู้แก่เยาวชนให้ได้มาเห็นนกใกล้ๆ ได้เห็นสีสันชัดเจนได้เห็น พฤติกรรมของนกจนเกิดความชื่นชอบขึ้น ในที่สุดสิ่งนี้ก็เป็นจุดหนึ่งที่จะช่วยเสริมเรื่องการอนุรักษ์นก ได้เช่นกัน


แหล่งที่มา ..http://www.skn.ac.th/skl/skn422/life/tj6.htm