การเกิดสุริยุปราคาเต็มดวงนั้น  จะเริ่มต้นด้วยการเกิดสุริยุปราคาบางส่วนก่อน  คือการที่ดวงจันทร์เริ่มต้นโคจรเข้าบัง
ดวงอาทิตย์ที่ละน้อย ๆ ต่อเมื่อดวงจันทร์บังดวงอาทิตย์หมดดวงจึงจะเป็นสุริยุปราคาเต็มดวง  แต่ในบริเวณที่อยู่เหนือขึ้นไป
หรือใต้แนวที่ถูกทำให้มืดลงมา  ซึ่งจะเห็นเฉพาะสุริยุปราคาบางส่วนก็จะไม่เห็นสุริยุปราคาเต็มดวง  คงจะเห็นแต่สุริยุปราคา
บางส่วนไปตั้งแต่ต้นจนจบสิ้นปรากฏการณ์  เพราะสุริยุปราคาบางส่วนจะมีเฉพาะสัมผัสที่  1  และ  4  เท่านั้น  การสัมผัสของดวงจันทร์กับดวงอาทิตย์ในขณะเกิดสุริยุปราคา  มี  4  จังหวะด้วยกัน  คือ
1.  สัมผัสที่  1  (FIRST  CONTACT)  เป็นจุดเริ่มต้นที่ดวงจันทร์เริ่มเข้าบังดวงอาทิตย์
2.  สัมผัสที่  2  (SECOND  CONTACT)  เป็นจุดเริ่มต้นที่ดวงจันทร์บังดวงอาทิตย์ได้มิดหมดดวง
3.  สัมผัสที่  3  (THIRD  CONTACT)  เป็นจุดสุดท้ายที่ดวงจันทร์บังดวงอาทิตย์มิด
4.  สัมผัสที่  4  (FORTH  CONTACT)  เป็นจุดสุดท้ายก่อนที่ดวงจันทร์จะหลุดพ้นออกจากดวงอาทิตย์

การเกิดสุริยุปราคา  ณ  บ้านหว้ากอ
      อังคารที่  18  สิงหาคม  พ.ศ.2411  เป็นวันสำคัญที่บรรดาผู้โดยเสด็จทั้งไทยและเทศต่างเฝ้ารอ  คำพยากรณ์จากการคำนวณทางดาราศาสตร์  ก็ปรากฏว่าเมื่อเวลา  10.16  น.  ท้องฟ้าเหนือชายทะเล  บ้านหว้ากอ  ซึ่งแต่เดิมปกคลุมด้วยเมฆฝน
ก็พลันกระจ่างมองเห็นดวงอาทิตย์ไร ๆ พอรู้ว่าสุริยุปราคาได้เริ่มขึ้นแล้ว  จนกระทั่งเวลา  11.36  น.  กับอีก  20  วินาที 
ก็จับเต็มดวง  ซึ่งกินเวลาจับเต็มดวงทั้งสิ้น  6  นาที  กับ  45  วินาที  เล่ากันมาว่า  “เวลานั้นมืดเหมือนเวลากลางคืน  เวลาพลบค่ำ  คนที่นั่งใกล้ ๆ  ก็แลดูไม่รู้จักหน้ากัน”  ท่ามกลางความมืดจากสุริยุปราคานั้น  พระบารมีขององค์พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย  ก็เจิดจรัสแจ่มฟ้า  พระองค์ทรงสามารถคำนวณการเกิดสุริยุปราคาเต็มดวง  ที่บ้านหว้ากอ  จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 
ได้อย่างแม่นยำ  ไม่คลาดเคลื่อนแม้แต่วินาทีเดียว  ซึ่งเป็นการพิสูจน์ผลการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์  ครั้งยิ่งใหญ่และครั้งแรกของชาติไทย  จนเป็นที่เลื่องลือในวงการดาราศาสตร์ทั่วโลก  ซึ่งเป็นประวัติศาสตร์ที่น่าภาคภูมิใจยิ่งของประเทศชาติ